ทำไมบางครั้งการเติมคลอรีน หรือการปรับค่า pH ของน้ำ…ก็ไม่เห็นผลตามที่ควรจะเป็น?
หลายคนอาจสงสัย ทั้งที่เติมสารเคมีไปแล้ว แต่ค่าน้ำก็ยังไม่เปลี่ยน หรือเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย สาเหตุหนึ่งที่มักถูกมองข้ามก็คือ สภาวะ Over-saturation หรือภาวะที่น้ำในสระมีสารเคมีเกินจุดที่น้ำจะรับได้ ทำให้ไม่สามารถปรับสมดุลได้ตามปกติอีกต่อไป
Over-saturation คือ ภาวะที่น้ำในสระมีสารเคมีสะสมเกินกว่าที่น้ำจะรองรับได้
เปรียบง่าย ๆ ก็เหมือนการใส่น้ำตาลในกาแฟมากเกินไป จนละลายไม่หมดและตกเป็นตะกอนเมื่อเกิดขึ้นในสระว่ายน้ำ จะทำให้เกิด คราบตะกรันขาว ๆ เกาะตามผนัง พื้นสระ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ปัญหานี้ไม่เพียงทำให้สระดูไม่สวยงาม แต่ยังอาจทำให้ ระบบปั๊ม กรอง หรือฮีตเตอร์อุดตันและเสียหายได้
เช็กให้ดี ถ้าเจอสัญญาณนี้
- น้ำขุ่น / มีตะกอน
- คราบขาวเกาะผนังสระ
- ปั๊ม / กรองตัน
- ปรับเคมีไม่ขยับ
- ตรวจวัดค่า LSI (Langelier Saturation Index) หากค่า LSI มากกว่า +0.5 แสดงว่ามีความเสี่ยงเกิด Over-saturation
- ลดปริมาณการเติมสารเคมีบางชนิด เช่น pH, Alkalinity, Calcium Hardness
- เปลี่ยนน้ำบางส่วนเพื่อช่วยลดค่า TDS (Total Dissolved Solids)
- ทำความสะอาดสระและระบบกรอง เพื่อลดการสะสมของตะกรัน
- ตรวจวัดคุณภาพน้ำเป็นประจำ โดยเฉพาะ pH, คลอรีน, Alkalinity และ Calcium Hardness อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง️
- เติมสารเคมีอย่างพอเหมาะ ควรปรับทีละน้อยและตรวจซ้ำเสมอ
- รักษาระบบหมุนเวียนและระบบกรองให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอ
- ใช้ค่า LSI เป็นตัวชี้วัดหลักว่าน้ำยังอยู่ในสภาวะสมดุลหรือไม่
สรุป
Over-saturation คือภาวะที่น้ำในสระมีสารเคมีมากเกินไป จนไม่สมดุลและทำให้เกิดคราบตะกรันน้ำขุ่น และอุปกรณ์เสียหายได้ง่าย วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การตรวจวัดคุณภาพน้ำและปรับสมดุลอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สระใสสะอาด และระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ